ขายที่ดินเสมือน Bit.Country

ทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ Bit.Country

Bit.Country คืออะไร?

Bit.Country เป็นแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน ซึ่งทุกคนสามารถเริ่มต้นเข้าสู่ Metaverse ของตนเองได้และสามารถสร้างเงินได้จากโลก 3D, แผนที่, เกม ระบบเศรษฐกิจ และการกำกับดูแล โดยแพลตฟอร์มได้นำเสนอการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่รวมสื่อโซเชียลมีเดียแบบ 2D และแพลตฟอร์มเกม 3D ที่ทำงานร่วมกับการใช้แว่นตา VR อีกด้วย นอกจากนี้ผู้ใช้งานไม่เพียงแต่จะได้รับอนุญาตให้มีแกลเลอรี NFT ของตนเองใน Marketplace เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างกฎเกณฑ์ของตนเอง, รูปแบบ, โทเคน และการกำกับดูแลชุมชนได้อีกด้วย

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงสุดนั้น Bit.Country ได้รับการพัฒนาบน metaverse.network ซึ่งเป็นเวอร์ชันหนึ่งของ Ethereum Metaverse โดยมีค่าแก๊สที่อยู่ในระดับต่ำอีกด้วย นอกจากนี้แพลตฟอร์ม Bit.Country ยังนำเสนอมุมมอง 2 ด้านคือ มุมมองเว็บแบบดั้งเดิม และมุมมองแบบ 3 มิติ โดยมุมมองแบบดั้งเดิมนั้นจะถูกใช้สำหรับการสร้างคอนเทนต์และเป็นประตูเพื่อเข้าถึงที่อยู่อาศัย, การกำกับดูแล, การบริการ, ตลาดกลาง, Staking และอื่น ๆ อีกมากมาย ในทางกลับกันมุมมอง 3D จะมีประสิทธิภาพในการจัดกิจกรรมและมีปฏิสัมพันธ์กับโลกเสมือนจริงในรูปแบบของอนาคต

พื้นที่ที่ผู้ใช้งานสามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างได้นั้นเรียกว่า Continuum ซึ่งอยู่ในแผนที่ของ Metaverse ที่มีจำนวนจำกัด ซึ่งสมาชิกในชุมชนจะเป็นผู้กำหนดอนาคตของ Continuum อย่างเบ็ดเสร็จ

จุดเริ่มต้นของ Bit.Country

Bit.Country ก่อตั้งขึ้นในเดือนมีนาคมปี 2021 โดยผู้ก่อตั้ง 2 คนคือ Ray Lu และ Shannon C ซึ่งเป็นนักพัฒนาที่มีประสบการณ์จากเมือง Auckland, New Zealand ซึ่งโลกเสมือนจริงของแพลตฟอร์มนี้เกิดขึ้นจากแนวคิดที่จะให้ทุกคนมีโอกาสสร้างชุมชนของตนเอง ด้วยการเป็นเจ้าของประเทศเสมือนจริง อีกทั้งยังสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ และรูปแบบของพื้นที่ได้อย่างอิสระ เพื่อจูงใจให้ผู้ติดตามและผู้ที่มีส่วนร่วมได้ นอกจากนี้พวกเขาได้ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างเครือข่ายที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ที่เป็นกระแสในโลกแห่งความจริงได้

นับตั้งแต่ก่อตั้ง Bit.Country ได้รับความสนใจอย่างมากจากคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ เจ้าของโปรเจ็กต์ ผู้มีวิสัยทัศน์ และองค์กรที่ต้องการพัฒนา Metaverse ของตนเอง ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2021 ทางแพลตฟอร์มก็ได้มีการระดมทุนที่มีมูลค่าถึง 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้ร่วมมือกับพันธมิตร Metaverse ที่มีชื่อเสียง และในบรรดาผู้เข้าร่วมงานระดมทุน ได้แก่ ผู้นำในอุตสาหกรรม Blockchain, ผู้บุกเบิก Web 3.0, อินฟลูเอนเซอร์ และผู้สนับสนุน Metaverse จากทั่วทุกมุมโลก โดยหนึ่งในนักลงทุนรายใหญ่ในการระดมทุนรอบนี้คือ Animoca Brands ซึ่งถือเป็นยูนิคอร์นในอุตสาหกรรม Blockchain Gaming ที่ทำการพัฒนาเกมขึ้นมามากมาย เช่น The Sandbox และ CryptoKitties

ในเดือนพฤศจิกายน 2021 Bit.Country ได้เปิดขายที่ดินส่วนตัวมูลค่ากว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีแฟนคลับ Metaverse กว่า 6,000 คนได้ลงทะเบียนสำหรับเวอร์ชันเดโมที่มีกำหนดการเปิดตัวในช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมา

มีสินทรัพย์อะไรบ้างใน Bit.Country

จากข้อมูลล่าสุดมีสินทรัพย์เพียงประเภทเดียวที่เปิดให้ทุกคนสามารถซื้อบนแพลตฟอร์ม Bit.Country ได้คือ ที่ดินเปล่า

ที่ดินเปล่าบน Bit.Country เปรียบเสมือนความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลหรือความจุข้อมูลเหมือนกับ RAM ในคอมพิวเตอร์ โดยการเริ่มต้นเข้าสู่ Metaverse นั้นผู้ใช้เพียงแค่ต้องมีที่ดินเปล่าสักแปลงและค่าธรรมเนียมอีกเล็กน้อย โดยแผนที่โลกเสมือนจริงของ Bit.Country จะมีหน้าตาคล้ายคลึงกับ Google Map อีกทั้งยังมีตลาดกลาง และ DAO อีกด้วย นอกจากนี้แล้ว dApp ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เรียกว่า “Grow2Earn” และเกมที่ผู้เล่นสามารถปรับใช้กับโลกของตนเองได้

ผู้เล่นสามารถแยกย่อยที่ดินแปลงเดียวได้สูงสุดถึง 100 ยูนิต หรือจะทำการรวมกลุ่มเพื่อสร้างที่ดินขนาดใหญ่ก็ได้เช่นเดียว

ขึ้นอยู่กับเจ้าของที่ดินว่าจะสร้างที่ดินของตนเองอย่างไร โดยผู้เล่นได้รับอนุญาตให้พัฒนาที่ดินโดยใช้บล็อก Voxel หรือวัตถุ 3 มิติ อย่างไรก็ตามมีหลากหลายวิธีที่เจ้าของที่ดินสามารถสร้างเงินได้จากที่ดินของตนเอง ซึ่งรวมถึงการเดิมพันหรือการ Staking ด้วย

แต่ละบล็อกใน Bit.Country มาพร้อมกับธีมและเรื่องราวที่ต้องแทรกลงไปในบล็อกและมันจะต้องมีความสอดคล้องกันด้วย เนื่องจากผู้เล่นสามารถเยี่ยมชม block-neighbours ได้ จึงควรวางบล็อกที่มีธีมที่คล้ายกันไว้ใกล้กัน และสิ่งนี้ก็เป็นเหตุผลว่าเหตุใดจึงมี Good Neighborhood Protocol ที่จะช่วยให้เจ้าของบล็อกสามารถตัดสินใจได้ว่าต้องการค้นหาบล็อกธีมอะไรในฐานะเพื่อนบ้าน

เหรียญโทเคนที่ใช้ใน Bit.Country

  • NUUM (สกุลเงินดิจิทัลประจำเครือข่าย) - NUUM เป็นโทเคนประจำแพลตฟอร์ม Bit.Country รวมถึงยังเป็นโทเคนสำหรับ metaverse.network ด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้โทเคนนี้เพื่อทำการ Staking เพื่อความปลอดภัยและสนับสนุนแพลตฟอร์มในอีกทางหนึ่งได้ อีกทั้งยังใช้เป็นค่าธรรมเนียมหรือค่าแก๊สสำหรับการทำธุรกรรม, การโฆษณาและโปรโมชั่น, ซื้อ dApp เสมือนจริงจากร้านค้า, ซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยน, แลกเปลี่ยนเป็นโทเคน BIT และโทเคน Mint Social นอกจากนี้ยังเป็นสกุลเงินสากลที่สามารถใช้ในการซื้อทรัพยากรในแพลตฟอร์มได้ เช่น ที่ดินเปล่า เป็นต้น
  • BIT (โทเคนในเกม) - Bit.Country Metaverse นั้นถูกสร้างขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพได้ด้วยโทเคน BIT ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้แพลตฟอร์มถูกเรียกว่า Bit.Country เพราะมีการขุดโทเคน BIT และผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินภายในแพลตฟอร์มจะมีพลังในการขุดโทเคน BIT อีกด้วย ซึ่งที่ดินทั้งหมดและเลเวลของโลก Metaverse ของที่ดินนั้นมีเพียงแค่เจ้าของเท่านั้นที่จะกำหนดพลังในการขุดของตนเอง

เพื่อกระจายจำนวนโทเคน BIT ที่คำนวณตามกำลังการขุดของผู้ใช้ Bit.Country จะขึ้นอยู่กับช่วงที่มีการจัดแคมเปญ โดยในช่วงเวลาของแคมเปญนี้ผู้เล่นสามารถทำงานต่าง ๆ เพื่อรับโทเคน BIT ได้ รวมถึงการ Staking ที่สามารถช่วยให้ได้รับโทเคน BIT ได้อีกด้วย

$BIT สามารถใช้เพื่ออัปเกรดวัตถุบางอย่างภายในที่ดินได้ และจะถูกใช้เมื่อผู้เล่นทำการสร้างวัตถุนั้น ๆ บนที่ดินของตนเอง

3 เหตุผลหลักที่คุณควรลงทุนใน Bit.Country

  • ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของ Metaverse ใน Bit.Country - เมื่อเปรียบเทียบกับโลกเสมือนจริงของเครือข่าย Blockchain อื่น ๆ เช่น Decentraland และ The Sandbox แล้วจะเห็นว่า Bit.Country มีความแตกต่างที่จะให้ทุกคนสามารถสร้าง Metaverse ของตนเองได้อย่างแท้จริง ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าการมีอสังหาริมทรัพย์เสมือนจริงเพียงเท่านั้น
  • โทเคน Bit.Country ใช้สำหรับการเป็นค่าแก๊สได้ - โทเคนประจำเครือข่ายของ Bit.Country ต่างจากโทเคนในเกมอื่น ๆ ส่วนใหญ่ตรงที่สามารถใช้เพื่อเป็นค่าแก๊สได้
  • สามารถใช้ได้ทั้งบนเว็บไซต์และเดสก์ท็อป - Bit.Country สามารถใช้ได้ทั้งบนเว็บและเดสก์ท็อปที่มีความละเอียดสูงและแม่นยำ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึง Metaverse ของตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้น