ขายที่ดินเสมือน HighStreet

HighStreet เป็น Metaverse รูปแบบ play-to-earn ที่ผสมผสานการเล่นเกม, ช้อปปิ้ง, NFT และแบรนด์ดั้งเดิมและคริปโตแบรนด์ เอาไว้ด้วยกันในเกมประเภท MMORPG ที่ร่วมเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างลงตัว ซึ่งผู้ใช้สามารถรับเงินจริงได้โดยการทำภารกิจให้สำเร็จ พบปะกับผู้ใช้งานรายอื่น และเลือกซื้อ NFT จากแบรนด์ดั้งเดิมในโลกแห่งความจริง

HighStreet เป็น Metaverses ที่เน้นการค้าเป็นเจ้าแรก โดยมีเป้าหมายที่จะปฏิวัติวงการ E-commerce และการค้าปลีก ซึ่งทีมพัฒนาดำเนินการตามวิสัยทัศน์ดังกล่าวนี้โดยการสร้างโทเคนให้กับผลิตภัณฑ์ในโลกแห่งความจริง และเปลี่ยนเป็นสิ่งที่เรียกว่า ““Phygital”” (Physical + Digital) ที่เป็นสิ่งที่ผู้คนสามารถแลกเปลี่ยนกับผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้หรือผลิตภัณฑ์ NFT บางประเภท ยิ่งไปกว่านั้นลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อเพียงส่วนหนึ่งของสินค้า Phygital ทั้งชิ้นหรือจะซื้อสินค้า Phygital ทั้งชิ้นเลยก็ได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ใช้งานซื้อกระเป๋าของดีไซเนอร์ในชีวิตจริง และจะสามารถเพิ่มกระเป๋าใบนั้นลงในตู้เสื้อผ้าของอวตาร์ในโลกเสมือนจริงได้ด้วย

ตลาดกลาง HighStreer สามารถเข้าถึงได้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถใช้เวลากับคอมมูนิตี้ที่มีความสนใจและงานอดิเรกที่ตรงกันได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังมีโอกาสได้พบปะกับเหล่าคนดังที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์และสินค้าของตนเองบน HighStreer

โลกเสมือนจริงของ HighStreet เป็นที่ตั้งของทวีปที่ชื่อว่า “Solera” รวมถึงหมู่เกาะลึกลับและภูมิภาคต่าง ๆ ที่จะขยายตัวต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตามกลไกตลาดจะกำหนดขอบเขตภายใน Metaverse ของแพลตฟอร์มให้ผู้ใช้สามารถซื้อที่ดินภายในแพลตฟอร์มได้ และได้รับโอกาสในการทำเงินได้อีกด้วย

ผู้ก่อตั้ง HighStreet ชื่อว่า Travis Wu และทีมพัฒนาหลักของ Metaverse นั้นได้เริ่มต้นในชื่อ “LumiereVR” ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกอุปกรณ์ VR ที่ใช้เทคโนโลยี Computer Vision เป็นโครงสร้างพื้นฐาน โดยในตลอดหลายปีที่ผ่านมาทีมพัฒนาได้สร้าง Metaverse ทางการค้าโดยการนำสินค้าจากบริษัทต่าง ๆ มาเป็นสินค้าในแพลตฟอร์ม ได้แก่ Hershey's Chocolate, L’Oreal, Victoria Secrets, Madison Square Garden และอื่นๆ

เนื่องจากทีมพัฒนาของ HighStreet นั้นประกอบด้วยนักเล่นเกมตัวยง จึงทำให้มันได้รับแรงบันดาลใจจากรายการโปรดในวัยเด็กของสมาชิกในทีมบางคน เช่น Maplestory, One Piece, Avatar the Last Airbender และ Treasure Planet เป็นต้น ซึ่งวัตถุประสงคของพวกเขาคือการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างโลกดิจิทัลและโลกแห่งความจริง ผ่านการคิดค้นวิธีการนำผลิตภัณฑ์และสินค้าต่าง ๆ ไปเพื่อใช้งาน บริโภค และขาย รวมถึงพวกเขาก็ต้องการให้ผู้ใช้งานสามารถสำรวจ Metaverse ที่หลากหลาย ทั้งการเป็นเจ้าของและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เสมือนจริง ซื้อโทเคนสินค้า และเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้ที่เฟื่องฟู

นับตั้งแต่เริ่มต้น HighStreet ก็มีผู้นำทางความคิดที่สำคัญมากมาย ตั้งแต่เครือข่าย Chain อย่าง Avax และตลาดแลกเปลี่ยนอย่าง Binance ไปจนถึงกองทุนอย่าง Animoca และ Republic ที่ผสานรวมกับ Metaverse อีกด้วย ซึ่งในไตรมาสที่ 3/2021 HighStreet ได้ระดมทุนเป็นมูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยรอบระดมทุนครั้งนี้นพโดยบริษัทร่วมทุนทั้งแบรนด์ดั้งเดิมและแบรนด์คริปโตต่าง ๆ เช่น Mechanism Capital, Palm Drive Capital, NGC Ventures, Cherubic Ventures, GBV, Jump Trading, Shima Capital และ Panony เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอินฟลูเอนเซอร์และผู้สร้างคอมมูนิตี้ เช่น Miss Bitcoin, Encrypt Club และ Mr Block ก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน

HighStreet วางแผนที่จะจัด Initial Home Offering (IHO) และเปิดตัวเวอร์ชันอัลฟ่าต่อสาธารณชนในไตรมาสที่ 1/2022 โดยคลื่นลูกแรกจะเป็นการรวบรวมคอนเทนต์จากพันธมิตรและการทดสอบผู้ใช้งานเบื้องต้นสำหรับแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนที่มีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 2/2022

ข้อมูลด้านล่างต่อไปนี้เป็นภูมิภาคต่าง ๆ ใน HighStreet:

• HighStreet City - HighStreet City เป็นศูนย์กลางของแผนที่โลกเสมือนจริงบนแพลตฟอร์มที่จะสามารถเชื่อมโยงผู้เล่นใหม่และผู้เล่นเดิมเข้าหากัน โดยมันจะเป็นเหมือนมหานครที่มีผู้คนพลุกพล่านมารวมตัวกันเพื่อทำการค้าหรืออาจจะแค่ออกไปท่องเที่ยว รวมถึงยังเป็นที่ที่แบรนด์ในโลกแห่งความจริงส่วนใหญ่เริ่มปรากฏตัวในโลก Metaverse นอกจากนี้แล้ว HighStreet City จะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเมื่อมีแบรนด์ต่าง ๆ มาเข้าร่วมกับแพลตฟอร์มและมีผู้เล่นมาเข้าร่วมเกมมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นผู้เล่นสามารถพบเจอคอนโดมิเนียมที่ทันสมัยได้ในเมืองแห่งนี้อีกด้วย
• Binance Beach - Binance Beach เป็นชายหาดที่สามารถให้ผู้เล่นเข้ามาสำรวจได้ ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหาตลาดสำหรับการซื้อ ขาย และเสนอราคาบิดของ Binance NFT ได้โดยตรงภายในเกม อย่างไรก็ตามพื้นที่ในเมืองนี้ยังมีส่วนเล็ก ๆ ที่มีไว้สำหรับสาวก BNB รายใหญ่ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยส่วนตัว ซึ่งสิ่งปลูกสร้างในเมืองนี้มีสถาปัตยกรรมในสไตล์บ้านกรีก โดยที่นี่เปิดให้ผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนสามารถรู้สึกผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับสายลมและแสงแดดได้
• AVAX Alps - AVAX Alps ตั้งอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือสุดของโลกเสมือนจริง HighStreet World โดยมีลักษณะเป็นทุ่งทุนดราน้ำแข็งที่เต็มไปด้วยกระท่อมน้ำแข็งเป็นที่อยู่อาศัย และด้วยมีหิมะตกตลอดทั้งปี ทำให้เมืองนี้เป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาว
• Animoca Archipelago - นอกชายฝั่งของทวีปหลักที่ชื่อว่า Solera ที่ผู้ใช้สามารถค้นหาถนนสายหลักที่ใช้เดินทางข้ามหมู่เกาะไปยังเกาะต่าง ๆ ได้ โดยแต่ละเกาะจะเป็นตัวแทนของเกมหรือแบรนด์ที่อยู่ภายใต้ Animoca Brands Umbrella
• Republic Realm - Republic Realm เป็นเกาะที่ปกคลุมไปด้วยม่านลึกลับน่าพิศวง ซึ่งมันเป็นเกาะที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเหมือนภาพลวงตา ทำให้ดูเหมือนไม่ใช่ของจริงจากระยะไกล

• อสังหาริมทรัพย์เสมือนจริง - ที่ดินบน HighStreet World ถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นกระเบื้องรูปหกเหลี่ยมกระจายไปทั่วแผนที่ โดยกระเบื้องหกเหลี่ยมแต่ละแผ่นจะถูกเรียกว่า “Hex” และแต่ละอันจะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 44 เมตร ซึ่งผู้ใช้สามารถซื้อเป็นทีละแผ่นหรือซื้อเป็นชุดเซ็ตตามสถานที่ต่าง ๆ ได้ โดยเจ้าของ Hex สามารถพัฒนาอะไรก็ได้บนที่ดินตามต้องการ เช่น บ้าน คลับ และร้านค้า เป็นต้น
  
  ใน Initial Home Offers (IHO) ของ HighStreet กำหนดให้ผู้ใช้สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีจำนวนจำกัดได้ทั่วทั้ง 5 ภูมิภาคหลัก: HighStreet City, AVAX Alps, Binance Beach, Republic Realm และ Animoca Archipelago ซึ่งแต่ละภูมิภาคมีอสังหาริมทรัพย์ที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น ประเภทแรกที่จะเปิดตัวจาก HighStreet City ใน IHO คือ Vive Tower ที่ HTC จะมีอำนาจ ซึ่งผู้ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ใน 4 ภูมิภาคที่เหลือจะต้องทำแบบสอบถามเล็กน้อย เพื่อที่ทีมงานจะต้องใช้ในการพิจารณาคัดเลือกผู้เล่นไปยังภูมิภาคที่เหมาะสมที่สุด
  
  การเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ใน HighStreet World จะทำให้ผู้เล่นมีโอกาสมากมายที่จะได้รับผลตอบแทนจากการทำธุรกรรม และกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ภายในพื้นที่ของตนเอง นอกจากนี้เจ้าของที่ดินสามารถปรับแต่งได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ผนังไปจนถึงของประดับตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน รวมถึงยังสามารถจัดแสดงผลงาน NFT ของตนเอง เชิญเพื่อนเข้ามา และอื่น ๆ อีกมากมาย
  
  
• Fomo Duck Squad (เป็ด) - Forever Fomo Duck Squad หรือเป็ด เป็นมาสคอตและอวาตาร์ NFT อย่างเป็นทางการของ HighStreet World ซึ่งเมื่อทำการซื้อเป็ด 2D แล้วมันจะสามารถแปลงร่างเป็นเป็ด 3D ในเกมได้ นอกจากนี้ผู้ที่เป็นเจ้าของเป็ดยังสามารถเจ้าถึงคลับสุดพิเศษใน HighStreet World รวมถึงดรอปและห้องเก็บของสุดพิเศษ อย่างไรก็ตามเป็ดหรือ Fomo Duck Squad เป็น NFT ที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครและอยู่บนเครือข่าย Ethereum Blockchain ดังนั้นเจ้าของจึงสามารถค้าเทรดและซื้อขายได้ในตลาดต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ

HighStreet ขับเคลื่อนด้วยโทเคน 2 สกุลด้วยกัน ได้แก่ HIGH และ STREET ซึ่งทั้ง 2 โทเคนนี้จะถูกแสดงอยู่บนตลาดแลกเปลี่ยนอื่น ๆ อีกด้วย ดังนั้นเจ้าของจะสามารถแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินดั้งเดิม (Fiat Currency) หรือเป็นคริปโตเคอร์เรนซีสกุลอื่น ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน

• HIGH - ผู้ใช้งานที่มีโทเคน HIGH อยู่ในครอบครอง จะสามารถใช้งานเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์รุ่นลิมิเต็ดในตลาดกลางของแพลตฟอร์มได้ และสามารถรับค่าธรรมเนียมธุรกรรมเมื่อนำโทเคนไปทำการ Staking ลงใน Pool นอกจากนี้ผู้ใช้งานสามารถใช้โทเคนในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ใน Metaverse ได้อีกด้วย รวมถึงการใช้โทเคน HIGH ยังช่วยให้ผู้ใช้งานได้มีส่วนร่วมในการกำกับดูแลของเครือข่าย และในอนาคตสามารถใช้โทเคนเพื่อโหวตเกี่ยวกับข้อกังวลที่เกิดขึ้นกับผู้ค้าได้
• STREET - โทเคน STREET เป็นสกุลเงินในเกมของ HighStreet ที่จะช่วยให้มั่นใจว่าผู้เล่นทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันในการสนุกสนานไปกับเกม โดยจะไม่มีภาวะเงินเฟ้อมากเกินไปนั่นเอง รวมถึงยังใช้เป็นสกุลเงินหลักที่อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทั้งหมดในเกม เช่น การซื้อไอเทมจากผู้เล่นอื่น การซื้อไอเทมจากตัวละคร NPC ที่เป็นตัวแทนของแบรนด์ต่าง ๆ และการซ่อมแซมไอเทมในเกม เป็นต้น กรณีใช้งานด้านอื่น ๆ ของโทเคน STREET คือการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถหารายได้ได้จากการทำภารกิจต่าง ๆ และล่ามอนสเตอร์ให้สำเร็จ

1. ผู้บุกเบิก - HighStreet เป็น Metaverse ที่เน้นการค้าเป็นรายแรกในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งมีตลาด DeFi สำหรับการซื้อขายสินค้ารุ่นลิมิเต็ด ซึ่งเป็นสินค้าไฮบริดที่เป็นการผสานรวมระหว่าง — เสมือนจริงครึ่งหนึ่งและทางกายภาพครึ่งหนึ่ง — จึงทำให้มันมีความแตกต่างจากแพลตฟอร์ม Metaverse อื่น ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน อีกทั้งยังช่วยให้แบรนด์สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างสร้างสรรค์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และยังถือเป็นการทดลองตลาดที่น่าทึ่งเป็นอย่างมากเช่นกัน นอกจากนี้ด้วยฟีเจอร์สภาพคล่องแบบเร่งด่วนที่เรียกว่า “StreetSmart Bonding Curves” ซึ่งมันจะให้ผู้ใช้สามารถซื้อและขายโทเคนของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้โดยตรงที่มูลค่าตามราคาตลาดแบบไดนามิกตลอด 24 ชั่วโมง
2. ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนที่น่าเชื่อถือ - มีนักลงทุนที่น่าเชื่อถือมากมายที่เข้ามาร่วมลงทุนกับ HighStreet เช่น HTC, Cherubic Ventures, Palmdrive Capital, Jump Trading, กลไก และ NGC
3. ทีมงานมากประสบการณ์ - ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังของ HighStreet นั้นเต็มไปด้วยผู้มากประสบการณ์จากตลาด DeFi, VR, Fine Art และตลาดโฆษณาต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่านอกจากที่พวกเขาต่างมีประสบการณ์มานานหลายปีแล้ว ก็ยังถือเป็นทรัพยากรระดับโลก มีความรู้ที่กว้างขวาง และทำงานได้อย่างแม่นยำ